จุดเริ่มต้นทั้งหมดของตลาดครั้งนี้คือการคว้า 3 แชมป์เมื่อปลายฤดูกาลที่แล้วนั่นเอง เราต้องยอมรับว่าต้องมีนักเตะที่รู้สึกอิ่มตัวหรือต้องการหาความท้าทายใหม่อย่างแน่นอน บอร์ดบริหารของเราก็คงลำบากไม่ใช่น้อยในตลาดครั้งนี้ด้วยที่ค่าตัวนักเตะที่แพงมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเรายอมจ่ายมันจะเป็นบรรทัดฐานให้ทีมอื่นรู้ว่าเราเป็นลูกไก่ในกำมือ แต่ถ้าไม่ยอมจ่ายเราก็จะไม่ได้นักเตะมาทดแทน

ต่อมาเรื่องนักเตะใหม่ที่เข้ามาทั้ง 4 คน คือ มาเตโอ โควาซิช, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล, เจเรมี โดคู และ มาเธอุส นูเนส ต่างก็เข้ามาทดแทนผู้เล่นเก่าทั้งสิ้น แต่อาจมีบทบาทหน้าที่แตกต่างกันออกไปรวมถึงอายุการใช้งานที่ยาวขึ้น แต่ความดีใจขั้นสุดของเหล่าแฟนบอลแมนฯ ซิตี้ คงเป็นการต่อสัญญานักเตะเก๋าเกมทั้ง 2 คน คือ แบร์นาโด้ ซิลวา และ ไคล์ วอล์คเกอร์ เพราะทั้ง 2 คนเป็นนักเตะที่ยากจะหาใครมาทดแทนด้วยทักษะในการเล่นได้หลายตำแหน่งอย่างกองกลางชาวโปรตุเกส และจ้าวแห่งความเร็วอย่างแบ็คขวาทีมชาติอังกฤษ

สุดท้ายคือการจากลาของเด็กปั้นอนาคตไกล โคล พาล์มเมอร์ โดยส่วนตัวแล้วก็เข้าใจเหตุผลที่จำเป็นต้องออกจากทีมก็เพราะว่าโอกาสที่จะเบียดขึ้นตัวจริงไม่ใช่เรื่องง่ายเท่าไร ถ้าคุณไม่มีความโดดเด่นมากพอเมื่อเวลาได้ลงเล่นแต่ก็น่าเสียดายเพราะ 2 เกมบอลถ้วยเจ้าตัวทำผลงานได้ค่อนข้างดีที่เดียวจนอดคิดไม่ได้ว่า อาจเป็นปีของเจ้าตัวก็ได้แต่มันก็ไม่เป็นอย่างนั่น พาล์มเมอร์ได้ตัดสินใจย้ายไป เซลซี แบบช็อคอารมณ์แฟนบอลเรือใบ แต่สำหรับผมดีลที่ผมเศร้าที่สุดในฤดูกาลนี้ขอยกให้ อายเมอริก ลาปอร์ต เพราะสมองดันไปจดจำในช่วงที่เขาช่วยพาทีมคว้าแชมป์ทั้งที่ตัวเองบาดเจ็บที่เข่าจนสุดท้ายต้องถอนตัวจากทีมชาติในช่วงปิดฤดูกาล

ในฐานะแฟนบอล แมนฯซิตี้ ต้องบอกว่าบอร์ดบริหารก็คงทำเต็มที่แล้ว ดังนั้นถ้าตัดเกรดไม่ดีก็ดูใจร้ายมากไปหน่อย ผมขอให้ที่ 9/10 หัก 1 คะแนนสำหรับงานที่ล่าช้าในบางดีลจนทำให้เราคิดว่าไม่ได้แล้วซะอีก บวกกับการปล่อยฟรี อิคราย กุนโดกัน ไปแบบน่าเสียดาย…

เขียนโดย The Lite Team.